ค่าคอมมิชชันมักจะขึ้นอยู่กับปริมาณการค้าขายหรือการคิดค่าธรรมเนียมคงที่ต่อการค้าขาย แต่ละโบรกเกอร์ก็จะคิดค่าคอมมิชชันต่างๆนาๆ สำหรับการจำหน่ายหุ้นในตลาดยุโรป ค่าคอมมิชชันมักจะขึ้นอยู่กับจำนวนการค้าขายของคุณ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ 100 หุ้นที่ราคา 70 ยูโรต่อหุ้น และก็ค่าใช้จ่ายคือ 0.1% ของปริมาณสุทธิ คุณจะต้องจ่ายค่าคอมไม่ชชัน 7 ยูโร นั่นคือสำหรับเพื่อการซื้อเพียงแค่นั้น ถ้าหากคุณขายก็จะมีค่าคอมมิชชันด้วย โบรกเกอร์บางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการอย่างต่ำ เป็นต้นว่า 10 ยูโรต่อการค้าขาย ฯลฯ
ค่าสเปรด (Spread)
ค่าสเปรดเป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือราคาเสนอซื้อรวมทั้งราคาเสนอขาย หากคุณทำซื้อและขายในเวลาเดียวกัน คุณจะขาดทุน นี่เรียกว่าเงินลงทุนสเปรด ถ้าหากคุณค้าขายสกุลเงิน คู่สกุลเงินที่ซื้อขายบ่อยที่สุด อาทิเช่น EUR/USD จะมีสเปรดที่แคบมาก ในช่วงเวลาที่สกุลเงินที่แปลกใหม่กว่า อาทิเช่น ZAR/JPY ชอบมีสเปรดที่สูงกว่า โบรกเกอร์ CFD มักเสนอราคาที่รวมค่าธรรมเนียมไว้ในนี้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น INFINOX คิดค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1.2 ซึ่งชอบนำมาซึ่งการทำให้สเปรดกว้างกว่าเมื่อเทียบกับสเปรดของตลาดจริง แต่ว่าก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันใดๆเพิ่มอีก
อัตราดอกเบี้ยทางการเงิน
อัตราด้านการเงินหรือ Overnight rate จะถูกเรียกเก็บเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งที่มีเลเวอเรจนานกว่า 1 วัน เปิดพอร์ตหุ้น sbito สำหรับเพื่อการเทรดฟอเร็กซ์หรือการเทรด CFD ตำแหน่งที่มีเลเวอเรจแปลว่า สอน เล่นหุ้นให้ได้ เดือนละ 50000 คุณยืมเงินจากคนกลางเพื่อค้าขาย คุณจะต้องจ่ายดอกสำหรับเงินที่ยืมมานี้ (หรืออาจได้รับดอกเบี้ยในบางครั้ง) ยกตัวอย่าง โบรกเกอร์ INFINOX ให้เลเวอเรจสูงถึง 1:1,000
อัตรามาร์จิน
การค้าขายด้วยมาร์จินหมายความว่า คุณยืมเงินจากนายหน้าของคุณเพื่อซื้อขาย ยกตัวอย่างเช่น แม้คุณมีบัญชีมาร์จินกับผู้แทนขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา และฝากเงินสดปริมาณ 5,000 ดอลลาร์ คุณอาจจะซื้อหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่ามากยิ่งกว่า 5,000 ดอลลาร์ได้ถ้าเกิดคุณอยาก
แม้กระนั้นคุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินที่คุณยืมมาด้วย ค่าธรรมเนียมนี้บางทีอาจแตกต่างกันไป โบรกเกอร์บางรายเรียกเก็บเงิน โบรกเกอร์หุ้น ไม่มีขั้นต่ำ 2565 5% หรือมากกว่าสำหรับมาร์จิน USD ในช่วงเวลาที่บางโบรกเกอร์ก็ลดอัตราค่าดอกเบี้ยลงเหลือ 1-2%